เปิดตัว iPad Air 2 และ iPad mini 3 : อัพเดทสเปคเข้าใกล้ iPhone และบางเบาแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เปิดตัว iPad Air 2 และ iPad mini 3 : 
อัพเดทสเปคเข้าใกล้ iPhone และบางเบาแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เมื่อคืนมีงานเปิดตัว iPad Air 2 และ iPad mini 3 ซึ่งรายละเอียดของงานเปิดตัวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย อัพเดทสเปคให้กับ iPad Air 2 
ให้เข้าใกล้กับ iPhone มากขึ้นทั้ง CPU ใช้เป็นชิป A8, กล้องปรับเป็น 8 ล้าน (น่าจะโมดูลเดียวกับ iPhone เลย) แต่ที่เรียกเสียงว้าวที่สุดน่าจะเป็น
ความหนาเพียง 6.1มม. บางที่สุดในโลก และน้ำหนักเพียง 444 กรัม พอๆกับ Nexus 9 ที่เครื่องเล็กกว่า 
ส่วน iPad mini 3 แทบจะหาความเปลี่ยนแปลงไม่เจอ หลักๆมีเพียงยัดใส่ Touch ID เข้าไปเท่านั้น

​

ราคาและวันวางจำหน่าย

iPad Air และ iPad mini ยังคงตั้งราคาแนวเดิมคือ ออกรุ่นใหม่มาที่ราคาเท่าเดิม และทำการลดราคาตัวเก่าลง


และราคาใน Online Store ของประเทศไทยปรับลดลงรอราคาของ iPad Air 2 และ iPad mini 3 โดยคาดว่า AIS DTAC TRUEMOVE 
คงจะปรับราคาลงตามเร็วๆนี้ ใครจะสอยก็รออีกสักพัก น่าจะมีทำราคาแรงๆออกมาสักรอบนึงครับ


*ราคา iPad Air 2 และ iPad mini 3 เป็นเพียงการคาดการณ์ อิงจากข้อมูลเก่า
วันวางจำหน่ายใน 29 ประเทศแรก (แน่นอนว่าไม่มีไทย) เริ่มต้นสั่งบน Online Store ได้ตั้งแต่วันนี้ และเริ่มมีวางจำหน่ายหน้าร้านในอาทิตย์หน้า 
และพร้อมขายทั่วโลกในเดือนถัดๆไป 29 ประเทศแรกที่ได้วางจำหน่าย iPad ได้แก่
US, Australia, Austria, Belgium, Bulgaria, Canada, China (Wi-Fi models only), 
Czech Republic, Denmark, Finland, France, Germany, Hong Kong, Iceland, Ireland, Italy, Japan, Liechtenstein, Luxembourg, Macau (Wi-Fi models only),
Netherlands, New Zealand, Norway, Poland, Portugal, Romania, Singapore, Slovakia, Spain, Sweden, Switzerland and the UK

จากข้อมูลปีที่แล้ว iPad Air และ iPad mini 2 เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อ 15 พฤศจิกายน เชื่อว่าปีนี้ก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่ 
อาจจะได้เจอกันราวศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน หรือศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้Credits:Jokergameth.com

iPhone 6: พี่อ้วนคอนเฟิร์มนั่งทับ iPhone 6 Plus โชว์ไม่เห็นเครื่องจะงอเลย! (มีคลิป)

 เรียกได้ว่าเป็นคลิปตอกกลับบรรดาคนที่นำเอา iPhone 6หรือ iPhone 6 Plus สองสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจาก Apple มาหักงอโชว์ได้อย่างแสบสันต์ดีแท้ เมื่อคุณพี่Abood Mohamed ตัดสินใจว่าข่าวลือเรื่อง iPhone 6 โค้งงอได้หรือ #Bendgate นั้นเป็นเรื่องที่สื่อนำมาใส่สีตีไข่ให้เกินเหตุไปไกล

ว่าแล้วพี่แกเลยขออาสาทดสอบด้วยตัวเอง (จริงๆ) ด้วยการนำ iPhone 6 Plus ใส่กระเป๋าหลังกางเกงแล้วนั่งทับลงไปด้วยร่างอันตุ้ยนุ้ยของพี่แกก่อนจะทำการคลึงด้วยท่าฤาษีบดยาสักสองสามที 555+ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาปรากฏว่า iPhone 6 Plus เครื่องไม่งอและสามารถใช้งานได้ตามปกติเหมือนเดิมนี่แหละ

อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าคลิปนี้พี่แกทำมาเพื่อตั้งใจประชดคนที่มากระแนะกระแหน iPhone 6 Plus ว่าเครื่องงอได้ง่ายเสียมากกว่า ซึ่งแม้ว่าคลิปนี้อาจจะตัดสินไม่ได้ว่า iPhone 6 Plus งอได้ง่ายหรือเปล่า แต่อย่างน้อยๆเราก็ได้เห็นแล้วว่ามันต้องมีปัจจัยหลายอย่างจริงๆควบคู่กันถึงจะสามารถทำให้ iPhone 6 Plus (หรือสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นทั่วไป) สามารถโค้งงอได้อย่างที่เป็นข่าวครับ :3 

Credits : TechXcite.com

Apple ตัดขาด PayPal จากระบบ Apple Pay เหตุฝ่ายหลังร่วมงาน Samsung!

รียกได้ว่าใครไม่อยู่ข้างเราก็อย่าหวังจะได้ร่วมงานกันอีกเลย เหมือนอย่างเช่น PayPal บริการใช้จ่ายออนไลน์ชื่อดังที่ตอนแรกมีข่าวว่า Apple อยากจะดึงมาเป็นพันธมิตรด้วยในระบบการชำระเงินแบบไร้สาย Apple Pay ที่กำลังจะให้บริการในอเมริกาเร็วๆนี้ ทว่าทำไปทำมาทาง Apple กลับตัดเยื่อใยกับทาง PayPal แบบไม่เหลือซากหลังไม่พอใจที่ฝ่ายหลังหันไปร่วมงานกับทาง Samsung คู่ปรับตลอดกาลนี่แหละ!

โดยเว็บไซต์ Cult of Mac เปิดเผยว่าอันที่จริงแล้ว Apple ได้ไปเจรจากับ PayPal เป็นบริษัทแรกๆด้วยซ้ำเพื่อให้มาร่วมเป็นพันธมิตรในระบบ Apple Pay ตั้งแต่ช่วงที่พวกเขายังพัฒนาระบบกันอยู่ ทว่าทางฝั่งของ PayPalนั้นกลับตัดสินใจไปร่วมงานกับ Samsung ด้วยการนำเสนอระบบใช้จ่ายของ PayPal ด้วยการสแกนลายนิ้วมือในSamsung Galaxy S5 เป็นรุ่นแรก จนเป็นสาเหตุให้ทางผู้บริหารของ Apple รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งและนำมาสู่การตัดชื่อ PayPal ออกจากพันธมิตรของ Apple Pay ไปโดยปริยายนั่นเอง

ทั้งนี้ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมเข้ามาด้วยว่าอันที่จริงแล้วคนที่ต้องการให้ PayPal ไปร่วมงานกับ Samsung นั้นคือทางด้านของ John Donahoe ซีอีโอของ eBay (บริษัทแม่ PayPal) ในขณะที่ David Marcus ประธานบริษัท PayPal ณ เวลานั้นไม่อยากเข้าร่วมโครงการนี้เลยเพราะรู้ว่า Apple จะต้องกริ้วตามมาแน่ๆ (และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ) ก่อนที่สุดท้ายคุณ Marcus จะย้ายไปร่วมงานกับทาง Facebook แทนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี่เองครับ... 

Credits: techxcite.com